ในปี 2023 ทาง Mintel ได้นำเสนอ 3 เทรนด์หลักที่จะส่งผลต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ Beauty & Personal Care ในปัจจุบัน ระยะเวลาอันใกล้และในอนาคตไว้ดังนี้

1. Beauty Rx

Now: The next 12 months

จากการระบาดของ Covid-19 เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถเลือกบำรุงและรักษาผิวพรรณได้เองจากที่บ้าน เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ผู้บริโภคกลับมามองหาความสะดวกสบาย โดยการใช้บริการร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าเช่นเดิม แต่เลือกการบริการอย่างมืออาชีพมากขึ้น ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพที่สูงขึ้นและเลือกใช้จ่ายเงินกับผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่ามากขึ้น เพราะวิกฤตค่าครองชีพและมีการรับอิทธิพลความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น

Next: 18 months - 2 years

แบรนด์ความงามจะลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของส่วนผสม อุปกรณ์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่วนผู้บริโภคนั้นจะต้องการผลิตภัณฑ์ความงามที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนและสามารถเข้าถึงชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้

Future: 5 years+

ด้วยความก้าวหน้าของการตรวจวินิจฉัย พร้อมทั้งอุปกรณ์สมัยใหม่ ทำให้ Precision Medicine (แนวทางการรักษาแบบแม่นยำและจำเพาะ โดยอาศัยข้อมูลทางพันธุกรรมหรือข้อมูลในระดับโมเลกุล มาใช้ในการตรวจวินิจฉัย) ส่งผลต่อการดูแลความงาม เพราะช่วยให้เข้าใจสภาพของผิวและเส้นผมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้ โดย Mintel มองว่าเป็นโอกาสของผลิตภัณฑ์กลุ่ม Microbiome, Hormones, Personalized Vitamins & Supplements และ Gene-editing

2. Evolved Self Care

Now: The next 12 months

เนื่องจากสถานการณ์ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ด้านความงามมากยิ่งขึ้น โดยสะท้อนจากข้อมูล Lipstick Index ที่ชี้ให้เห็นว่ายอดขายลิปสติกเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้บริโภคมองหาวิธีผ่อนคลายตัวเองด้วยวิธีที่เรียบง่ายและราคาไม่แพง

Next: 18 months - 2 years
ความสำคัญของชุมชนจะเติบโตขึ้น ผู้คนจะมองหาและเชื่อมโยงกับคนที่มีความคิดแบบเดียวกัน ให้ความช่วยเหลือกันด้านสุขภาพ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของส่วนรวม เช่น มีการพูดคุยกันเรื่องฮอร์โมน, ประจำเดือน, อาการร้อนวูบวาบ อย่างกว้างขวางและยอมรับมากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่างๆมีการพูดคุยกับผู้บริโภคอย่างเปิดกว้างและตรงไปตรงมา เพื่อตอบสนองความต้องการและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภค

Future: 5 years+
ในยุคที่คนใส่ใจตัวเองมากขึ้น แบรนด์ต้องช่วยมุ่งเน้นแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมและรับฟัง แบรนด์ยุคใหม่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมก็ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุม และเปิดเผยมากขึ้น อนาคตอาจจะได้เห็นการนำเอานิสัยโดยรวมของผู้บริโภค (Holistic Habit) รวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ เช่น การนอนหลับ, การไหลเวียนโลหิตที่มีความเกี่ยวข้องกับความงาม

3. New Rules of Engagement

Now: The next 12 months

พฤติกรรมการซื้อทางออฟไลน์หรือหน้าร้านกำลังกลับมาได้รับความนิยม ซึ่งหน้าร้านจะต้องไม่ใช่แค่การเลือกซื้อสินค้า แต่ต้องมีส่วนร่วมสร้างความสนุกและน่าตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค

Next: 18 months - 2 years

การใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการผสมผสานระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ จำลองประสบการณ์ผ่านช่องต่างๆ เช่น อวตารดิจิทัล, เมตาเวิร์ส

Future: 5 years+

เทคโนโลยี AR และ VR จะช่วยสร้างประสบการณ์น่าตื่นเต้น แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ทางกายภาพที่จะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในการค้นพบ ซื้อสินค้า และเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ในที่สุด

ที่มา : Mintel, 2023 Global Beauty & Personal Care Trends

Disclaimer :
All information contained herein is accurate to our best knowledge. However, neither NAMSIANG GROUP nor any of its subsidiaries assume any liability whatsoever for the accuracy or completeness of the information contained herein. Final determination on the suitability of our products should be solely made by the responsibility of the users. Since all materials may present unknown hazards, they should be handled with utmost caution. Although certain hazards are described in the MSDS, we cannot guarantee that these are the only hazards that exist.